ผักแปลงใหญ่..โนนเขวา ส่งห้างเดือนละ 1.3 ล้าน

ผักแปลงใหญ่..โนนเขวา ส่งห้างเดือนละ 1.3 ล้าน

“ตอนแรกเราปลูกผักแบบต่างคนต่างทำ มีรายได้เดือนละไม่ถึงหมื่น แถมปริมาณผลผลิตไม่แน่นอน แต่พอเกิดโครงการแปลงใหญ่ เรารวมกลุ่มกัน 10 คน มีผลผลิตป้อนตลาดใกล้เคียงและส่งพ่อค้าคนกลางอาทิตย์ละ 1 ตัน รัฐเข้ามาส่งเสริมด้านวิชาการ ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดีขึ้น จนผักกลุ่มเราได้จีเอพีทั้งหมด เลยได้ราคาดีกว่าผักอื่นในตลาด เมื่อเห็นว่า เราทำได้จริง เกิดประโยชน์จริง คนในหมู่บ้านใกล้เคียงขอร่วมกลุ่มด้วย จนปัจจุบันมีสมาชิกรวม 110 ราย พื้นที่ปลูก 450 ไร่”

ลุงคำปั่น โยแก้ว หนึ่งในแกนนำเกษตรกรผู้ก่อตั้งกลุ่มฯ เล่าต่อไปอีกว่า หลังจากรวมกลุ่มจนสมาชิกทุกคนสามารถปลูกผักได้มาตรฐานจีเอพีทั้งหมด ต้นปีที่ผ่านมาทาง ห้างเทสโก้ โลตัส เข้ามาติดต่อขอซื้อตรงจากเกษตรกร…ตามนโยบายของบริษัท ต้องการซื้อผลผลิตโดยตรงจากผู้ผลิต เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรตัวจริง

เมื่อตลาดแน่นอน ทางกลุ่มฯจึงต้องมาวางแผนการผลิตกันใหม่ เพื่อให้มีผลผลิตเพียงพอต่อออเดอร์สั่งซื้อผัก 9 ชนิด คะน้าต้น, คะน้ายอด, กวางตุ้ง, ผักบุ้งจีน, ผักชี, ใบกะเพรา, ผักกาดหอม, ต้นหอม และขึ้นฉ่าย สัปดาห์ละ 10-13 ตัน

ได้ข้อสรุปวางแผน การผลิตทุก 2 เดือน แบ่งออเดอร์กันใครจะปลูกอะไร กี่กิโลกรัม แล้วสลับกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้แต่ละคนได้ปลูกผักทุกชนิด เพราะแต่ละชนิดราคาสูงต่ำไม่เท่ากัน

“ตอนแรกทางห้าง ให้เราทำต้นทุนมาก่อน เพื่อจะได้วางราคากลางรับซื้อให้เป็นที่ยอมรับกันได้ทั้งสองฝ่าย แต่พวกเราเกษตรกรทำไม่เป็น ทาง โลตัสเลยเข้ามาสอนให้ทำต้นทุนทุกอย่าง บวกค่าแรงงาน ค่าความเสี่ยง พอเรา นำไปเสนอ จึงได้ราคาที่วินวินทั้งคู่ กลายเป็นราคากลางที่สูงกว่าราคาทั่วไป ไม่อิงราคาตลาด แต่มีข้อแม้เราต้องทำให้ได้ผลผลิตครบตามปริมาณและคุณภาพที่กำหนด ส่วนที่ไม่ได้สเปกจะส่งขายตลาดล่างกลายเป็นรายได้เสริมอีกทาง”

ผลจากการทำเกษตรแปลงใหญ่…ช่วยทำให้ต้นทุนการผลิตจากเดิมอยู่ที่ไร่ละ 12,000 บาท เหลือ 9,500 บาท ลดต้นทุนไปไร่ละ 2,500 บาท เพราะหันมาใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก สารชีวภัณฑ์ และยังเพิ่มผลผลิตจากไร่ละ 2,400 กก. เป็น 3,000 กก.

ส่งผลให้ทางกลุ่มฯมีรายได้จากการขายผักส่งห้างเดือนละ 1,300,000 บาท ยังไม่รวมผักตกเกรดที่ขายตลาดล่างอีกเดือนละ 4 แสนกว่าบาท…เฉลี่ยแล้วสมาชิกแต่ละคนมีรายได้จากการปลูกผักแปลงใหญ่ดีกว่าคนจบปริญญาทำงานเป็นลูกจ้างออฟฟิศซะอีก…บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ แถมค่าครองชีพยังถูกกว่าอีกต่างหาก ไม่ต้องมีค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างวันละเกือบร้อย เพราะทำงานใกล้บ้าน.

ข้อมูลเพิมเติม  https://www.thairath.co.th/content/1388586